แนวทางการออกแบบแผนการเรียนรู้

Home – Based Learning

แนวทางการจัดประสบการณ์ หมายถึง การออกแบบแผนการเรียนรู้อย่างไร ที่จะส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับบ้านโดยให้พ่อแม่เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมนี้ในบ้านเขาได้ เพราะฉนั้นแนวทางในการจัดกิจกรรมต้องมีเรื่องที่ต้องคิดถึงอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน

เรื่องที่ 1 คำนึงถึงความรู้ฐานรากของเด็ก ในการจัดกิจกรรม นอกจากจะใช้กระบวนการของการวางวัตถุประสงค์ในเรื่องพัฒนาการทั้ง 4 ด้านแล้ว ครูจำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องของการพัฒนาด้านตัวตน หรือ Self ของเด็กด้วย พัฒนาการด้านตัวตนของเด็กเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะลืม หรือมองข้ามไป เป็นสิ่งที่เราจะต้องชวนให้พ่อแม่เข้าใจเรื่องของความสัมพันธ์หรือสัมพันธภาพที่ดี ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเด็ก เพราะหากว่าพ่อแม่เอาจริงเอาจังหรือเรื่องที่ต้องคิดถึงอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน ว่าเร่งรัดผลที่จะเกิดขึ้นมากเกินไป จะส่งผลต่อพัฒนาการด้านตัวตนของเด็ก เช่น เด็กรู้สึกมีความสุขกับการเรียนรู้เมื่อประสบความสำเร็จในการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ด้วยตัวเอง แล้วถ้าหากทำไม่สำเร็จ พ่อแม่จะมีวิธีให้กำลังใจลูกอย่างไร


คุณครูจะต้องให้พ่อแม่เรียนรู้หรือเข้าใจว่า การเรียนรู้ไม่ได้เน้นที่ตัวผลลัพธ์ปลายทาง
แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องของกระบวนการที่เด็กทำงานแล้วเด็กเกิดความรู้สึก
ที่ดีต่อตนเอง เด็กได้เห็นความสามารถของตนเอง ได้เห็นความเพียรพยายาม

เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณครูออกแบบแผนการจัดกิจกรรม จะต้องไม่มุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ปลางทางอย่างเดียว  เพราะพ่อแม่จะกังวลใจมาก เมื่อคุณครูให้นำผลงานของเด็กมาแสดงในไลน์กลุ่ม หรือในขณะที่ ZOOM ก็ตาม เด็กๆ จะถูกกดัน เพราะฉะนั้นพัฒนาการในเรื่องของตัวตนของเด็กจะถูกกระทบทันที อีกเรื่องหนึ่งคือการออกแบบแผนกิจกรรม ควรให้พ่อแม่ได้สะท้อนถึงการพัฒนาในเรื่องของทักษะสมองด้วย

          เรื่องที่ 2 คำนึงถึงบริบทของบ้าน คุณครูจะต้องคำนึงว่า ขณะนี้เป็นสภาวะการเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่มีภาวะความรุนแรงสูงสุด ต่างคนต่างอยู่บ้าน เพราะฉะนั้นการคำนึงถึงบริบทของบ้านในเรื่องความพร้อมในการจัดหาสื่อและอุปกรณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้น การออกแบบแผนการจัดประสบการณ์ในช่วงนี้ ควรเป็นการให้ใช้สื่อและอุปกรณ์ที่หาได้ที่บ้าน ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับพ่อแม่ ไม่เป็นเรื่องที่เขากังวลใจที่จะต้องไปหาซื้อของ กลับทำให้พ่อแม่มีทักษะของการเลือกสรรค์สื่อใกล้ตัวมาใช้สร้างการเรียนรู้กับลูกได้ ให้มองว่าแผนการเรียนรู้จะต้องสอดคล้องและใช้ประโยชน์จากชีวิตประจำวันของเด็กๆ ให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวัน กิจกรรมที่คุณครูออกแบบแผนการเรียนรู้ แนะนำว่าควรมีรูปแบบกิจกรรมที่ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทำกับลูก


ข้อควรคำนึงต่อมาคือ กิจกรรมที่คุณครูออกแบบ ควรส่งเสริมให้เด็กสามารถที่จะทำงานด้วยตัวเองโดยลำพัง ทั้งหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่เห็นรูปแบบกิจกรรมแล้ว ก็ให้เด็กไปทำด้วยตัวเอง และมีกิจกรรมที่เด็กๆอยู่กับตัวเองได้ ซึ่งน่าจะเป็นข้อดีกับพ่อแม่ที่ต้อง Work From Home เด็กๆจะเรียนรู้ว่าจังหวะที่ตัวเองทำงานเป็นจังหวะที่พ่อแม่จะมีเวลาทำงานของตัวเอง และฝึกเด็กที่จะไม่ให้มารบกวนพ่อแม่

เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จึงจำเป็นที่จะต้องให้พ่อแม่มีทักษะที่จะมอบหมายงานให้เด็กแล้วได้ทำงานกันโดยลำพังด้วย อีกประการสำคัญ ต้องมีกิจกรรมที่ทำทั้งในบ้านและนอกบ้านด้วย ทั้งนี้ คำว่าปฏิสัมพันธ์ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะพ่อแม่กับลูก แต่เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างการจัดการกับหน้างานของเขากับช่วงเวลาที่มีอยู่ รวมทั้งเด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวด้วย

เรื่องที่ 3 คำถึงถึงทักษะของพ่อแม่ ข้อแรก การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ จำเป็นที่จะต้องเน้นกิจกรรมและกระบวนการที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ต้องช่วยให้พ่อแม่รู้สึกว่าเขาประสบความสำเร็จ เขามีวิธีการเตรียมการง่ายๆ โดยเฉพาะการเริ่มต้นกับพ่อแม่มือใหม่

ข้อที่ 2 คุณครูจะต้องเตรียมคำแนะนำในการจัดกิจกรรมให้กับพ่อแม่ คำแนะนำเหล่านี้มีความหมายมาก ขั้นตอนชัดและมีคำแนะนำว่าเขาจะต้องจัดสภาพแวดล้อมในบ้านอย่างไรจึงเอื้อต่อการเรียนรู้ของลูก เช่น มีโต๊ะทำงานของลูกเป็นสัดส่วน มีพื้นที่ติดแสดงผลงานของลูก เวลาที่พ่อแม่มาดูจะได้รู้ว่าลูกกำลังทำอะไร อะไรเสร็จแล้ว จะสะท้อนผลกันอย่างไร หรือมีวิธีการเก็บผลงานของลูกอย่างไร คุณครูสามารถทำคำแนะนำเหล่านี้ในรูปแบบคลิปวีดีโอสั้นๆ ที่ครูทำ หรือผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนวิชาการช่วยทำคำแนะนำสั้นๆ เช่น มีความรู้ที่จำเป็นอะไรบ้าง วิธีการตั้งคำถามกับลูก วิธีการสังเกตความก้าวหน้าของลูก วิธีการเชิญชวนลูกให้มีความสนใจต่อกิจกรรมวิธีการฟังลูก วิธีการจัดการเมื่อลูกรู้สึกหงุดหงิดและทำงานไม่สำเร็จ พ่อแม่จะทำอย่างไรได้บ้าง สิ่งเหล่านี้จัดทำแล้วก็ส่งความรู้เหล่านี้ให้กับพ่อแม่อย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันมีช่องทางของการ Feedback แนะนำกลับไปแล้วพ่อแม่เข้าใจไหม เป็นข้อมูลที่คุณครูจะนำมาพัฒนาปรับปรุงกระบวนการของการให้คำแนะนำ ถ้าเป็นกระบวนการ

เรียนรู้ที่ดีต้องทำให้พ่อแม่รู้สึกสบายใจ มีความสุขใจ สำเร็จไม่สำเร็จไม่เป็นปัญหา แต่ตรงนั้นจะสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันอย่างไรระหว่างครูกับพ่อแม่ และพ่อแม่กับพ่อแม่ เพราะฉะนั้นกระบวนการที่คุณครูออกแบบและกระบวนการของการให้คำแนะนำ จึงจำเป็นจะต้องทำให้พ่อแม่สุขใจไปกับการเรียนรู้ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ถือเป็นเรื่องของการเรียนรู้ทั้งสิ้น

          ข้อสุดท้าย ในแผนของครูควรมีแนวทางง่ายๆ ในการบันทึกการเรียนรู้ของเด็กสำหรับพ่อแม่ใช้งาน ซึ่งอาจเป็นแบบฟอร์มออนไลน์อย่าง Google from ก็ได้ ให้ง่ายจริงๆ ต่อการบันทึกการเรียนรู้ เพื่อที่จะทำให้พ่อแม่รู้สึกว่าเขากำลังสร้างการเรียนรู้โดยมีครูเป็นผู้ออกแบบ ครูเป็นมืออาชีพที่ช่วยให้มีการจัดการเรียนรู้ได้ดีและไม่เป็นภาระมากจนเกินไปสำหรับพ่อแม่นั่นเอง